วันพุธที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2555
หะดิษเศาะเฮียะฮืมุสลิม ว่าด้วยการสาบานต่อศาสนาอื่น และผู้ที่ฆ่าตัวตาย
أَنَّ ثَابِتَ بْنَ الضَّحَّاكِ أَخْبَرَهُ أَنَّهُ، بَايَعَ رَسُولَ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم تَحْتَ الشَّجَرَةِ وَأَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم قَالَ " مَنْ حَلَفَ عَلَى يَمِينٍ بِمِلَّةٍ غَيْرِ الإِسْلاَمِ كَاذِبًا فَهُوَ كَمَا قَالَ وَمَنْ قَتَلَ نَفْسَهُ بِشَىْءٍ عُذِّبَ بِهِ يَوْمَ الْقِيَامَةِ وَلَيْسَ عَلَى رَجُلٍ نَذْرٌ فِي شَىْءٍ لاَ يَمْلِكُهُ " .
ซาบิต บินเดาะฮ์ฮ๊าก ได้บอกกับเขา (ผู้รายงาน) โดยกล่าวว่า เขา (เป็นผู้หนึ่งที่) ได้ให้สัตยาบันต่อท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ภายใต้ต้นไม้ (บัยอะตุ้ลริดวาน) โดยท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “ ผู้ใดเจตนาสาบานด้วยศาสนาอื่น (ยอมรับศาสนาอื่นและยินดีออกจากอิสลาม) เพื่อโกหก (ในเรื่องที่สาบานนั้น) เขาก็เป็นดั่งคำสาบานที่เขากล่าว, และผู้ใดฆ่าตัวตายด้วยกับสิ่งใดก็ตามเขาจะถูกทรมานด้วยกับสิ่งนั้นในวันกิยามะห์, และคนหนึ่งจะไม่บน (นะซัร) ด้วยสิ่งใดที่เขาไม่มีกรรมสิทธิ์ในสิ่งนั้น”
มุสลิม/หมวดที่1/บทที่49/ฮะดีษเลขที่ 0201
หะดิษบุคอรี ว่าด้วยการตั้งชื่อเหมือนท่านนบีและการฝันเห็นท่านนบี
عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ، عَنِ النَّبِيِّ صلى الله عليه وسلم قَالَ " تَسَمَّوْا بِاسْمِي وَلاَ تَكْتَنُوا بِكُنْيَتِي، وَمَنْ رَآنِي فِي الْمَنَامِ فَقَدْ رَآنِي، فَإِنَّ الشَّيْطَانَ لاَ يَتَمَثَّلُ فِي صُورَتِي، وَمَنْ كَذَبَ عَلَىَّ مُتَعَمِّدًا فَلْيَتَبَوَّأْ مَقْعَدَهُ مِنَ النَّارِ "
อบูฮุรอยเราะห์ รายงานว่า ท่านนบีศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “พวกเจ้าน่าจะตั้งชื่อด้วยกับชื่อของฉัน (ให้ตั้งชื่อที่ดี) แต่อย่าได้อย่าได้ตั้งสร้อย (ฉายา) ด้วยกับสร้อยของฉัน (คืออบูกอเซ็ม) และผู้ใดที่ฝันเห็นฉัน แท้จริงเขาได้เห็นฉันจริงๆ เพราะซัยตอนนั้นไม่สามารถจำแลงในรูปของฉันได้ และผู้ใดกล่าวเท็จต่อฉันโดยเจตนา ก็ให้เขาเตรียมที่นั่งสำหรับในนรก”
บุคคอรี/หมวดที่3/บทที่38/ฮะดีษเลขที่ 110
หะดิษบุคอรี ว่าด้วยผู้ที่กล่าวเท็จต่อท่านนบี
عَنْ عَبْدِ الْعَزِيزِ، قَالَ أَنَسٌ إِنَّهُ لَيَمْنَعُنِي أَنْ أُحَدِّثَكُمْ حَدِيثًا كَثِيرًا أَنَّ النَّبِيَّ صلى الله عليه وسلم قَالَ " مَنْ تَعَمَّدَ عَلَىَّ كَذِبًا فَلْيَتَبَوَّأْ مَقْعَدَهُ مِنَ النَّارِ "
รายงานจาก อับดุลอะซีซ ว่า อนัส (บินมาลิก) กล่าวว่า ความจริงที่ห้ามฉันไม่ให้บอกกับพวกท่านในเรื่องฮะดีษอย่างมากมาย เพราะแท้จริงท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า “ผู้ใดเจตนากล่าวเท็จต่อฉันก็ให้เขาเตรียมที่นั่งสำหรับเขาในนรก”
บุคคอรี/หมวดที่3/บทที่38/ฮะดีษเลขที่ 108
หะดิษมุสลิม ว่าด้วยการสาบานเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์ของมุสลิม
سَمِعْتُ ابْنَ مَسْعُودٍ، يَقُولُ سَمِعْتُ رَسُولَ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم يَقُولُ " مَنْ حَلَفَ عَلَى مَالِ امْرِئٍ مُسْلِمٍ بِغَيْرِ حَقِّهِ لَقِيَ اللَّهَ وَهُوَ عَلَيْهِ غَضْبَانُ " قَالَ عَبْدُ اللَّهِ ثُمَّ قَرَأَ عَلَيْنَا رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم مِصْدَاقَهُ مِنْ كِتَابِ اللَّهِ { إِنَّ الَّذِينَ يَشْتَرُونَ بِعَهْدِ اللَّهِ وَأَيْمَانِهِمْ ثَمَنًا قَلِيلاً} إِلَى آخِرِ الآيَةِ .
ผู้รายงานกล่าวว่า ฉันเคยได้ยิน (อับดุลลอฮ์) อิบนิมัสอู๊ด กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “ผู้ใดเจตนาสาบานเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์ของมุสลิม ทั้งที่มันไม่ใช่สิทธิ์ของเขา, เขาจะกลับไปพบอัลลอฮ์โดยที่พระองค์ทรงโกรธเขาอย่างยิ่ง” อับดุลลอฮ์ กล่าวว่า หลังจากนั้นท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ก็อ่านข้อความจากอัลกุรอานเพื่อยืนยันในเรื่องนี้ว่า “แท้จริงผู้ที่เอาสัญญาของอัลลอฮ์ และการสาบานของพวกเขาไปขายด้วยราคาอันเล็กน้อย......” จนกระทั่งสุดอายะห์ (ซูเราะห์อาลาอิมรอน อายะห์ที่ 77)
มุสลิม/หมวดที่1/บทที่63/ฮะดีษเลขที่ 0256
หะดิษบุคอรี ว่าด้วยทุกกิจการขึ้นอยู่กับเจตนา
عَنْ عُمَرَ بْنَ الْخَطَّابِ ـ رَضِىَ اللهُ عَنْهُ – عَلى المِنْبَرِ يَقُوْلُ سَمِعْتُ رَسُوْلَ اللهِ صَلى اللهُ عَليْهِ وَسَلَّمَ يَقُوْلُ " إِنَّمَا الأَعْمَالُ بِالنِّيَّاتِ، وَإِنَّمَا لِكُلِّ امْرِئٍ مَا نَوَى فَمَنْ كَانَتْ هِجْرَتُهُ اِلَى دُنْيَا يُصِيْبُهَا أَوْاِلَى اِمْرَأَةٍ يَنْكِحُهَا فَهِجْرَتُهُ اِلَى مَا هَاجَرَ اِلَيْهِ
ท่านอุมัร อิบนุลค๊อต๊อบ (ขอพระองค์อัลลอฮ์ทรงเมตตาท่านด้วย) ได้กล่าวขณะอยู่บนมิมบัรว่า
"ฉันเคยได้ยินท่านรอซูลุ้ลลออ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า แท้จริงงานทั้งหลายขึ้นอยู่กับเจตนา และทุกคนจะได้รับตามที่เขาเจตนา ฉะนั้นผู้ใดก็ตามที่การอพยพของเขามีเป้าหมายเพื่อรับผลตอบแทนทางดุนยา หรือเพื่อแต่งงานกับหญิงใด การอพยพของเขาก็ได้รับผลดังที่เขาตั้งใจอพยพไปเพื่อสิ่งนั้น"
บุคคอรี/หมวดที่1/บทที่1/ฮะดีษเลขที่1
วันพุธที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2555
หะดิษเศาะเฮียะฮืมุสลิม ว่าด้วยเมื่อได้ยินเสียงจากชัยตอนให้อะซาน
حَدَّثَنِي أُمَيَّةُ بْنُ بِسْطَامَ، حَدَّثَنَا يَزِيدُ، - يَعْنِي ابْنَ زُرَيْعٍ - حَدَّثَنَا رَوْحٌ، عَنْ سُهَيْلٍ، قَالَ أَرْسَلَنِي أَبِي إِلَى بَنِي حَارِثَةَ - قَالَ - وَمَعِي غُلاَمٌ لَنَا - أَوْ صَاحِبٌ لَنَا - فَنَادَاهُ مُنَادٍ مِنْ حَائِطٍ بِاسْمِهِ - قَالَ - وَأَشْرَفَ الَّذِي مَعِي عَلَى الْحَائِطِ فَلَمْ يَرَ شَيْئًا فَذَكَرْتُ ذَلِكَ لأَبِي فَقَالَ لَوْ شَعَرْتُ أَنَّكَ تَلْقَى هَذَا لَمْ أُرْسِلْكَ وَلَكِنْ إِذَا سَمِعْتَ صَوْتًا فَنَادِ بِالصَّلاَةِ فَإِنِّي سَمِعْتُ أَبَا هُرَيْرَةَ يُحَدِّثُ عَنْ رَسُولِ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم أَنَّهُ قَالَ " إِنَّ الشَّيْطَانَ إِذَا نُودِيَ بِالصَّلاَةِ وَلَّى وَلَهُ حُصَاصٌ "
ซุฮัยล์ รายงานว่า พ่อของฉันได้ส่งฉันไปที่ บนีฮาริซะห์ เขากล่าวว่า ฉันได้เดินทางไปพร้อมกับเด็กรับใช้ หรือเพื่อนของฉันร่วมเดินทางไปด้วย (ขณะเดินทางนั้น) มีคนเรียกชื่อของเขาอยู่ที่ข้างกำแพง เขากล่าวว่า ฉันกับเขาก็ตรงเข้าไปที่ข้างกำแพง แต่ปรากฏว่าไม่พบสิ่งใดเลย ดังนั้น (เมื่อกลับจากการเดินทาง) ฉันได้เล่าเรื่องนี้ให้พ่อของฉันฟัง เขากล่าวว่า ถ้าฉันรู้ว่าเจ้าจะพบกับเหตุการณ์เช่นนั้น ฉันก็จะไม่ส่งเจ้าไปเป็นอันขาด แต่ว่าเมื่อเจ้าได้ยินเสียงเช่นนั้นอีก ก็จงอะซาน (เหมือนกับอะซานเพื่อละหมาด) เพราะฉันเคยได้ยินอบูฮุรอยเราะห์ เล่าให้ฟังจากท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า แท้จริงซัยฏอนนั้นเมื่อได้ยินเสียงอะซาน มันจะหนีไปอย่างหมดหวัง
มุสลิม/หมวดที่4/บทที่8/ฮะดีษเลขที่ 0755
วันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2555
หะดิษเศาะเฮียะฮ์บุคอรีและมุสลิม ว่าด้วยโทษการไม่ชำระปัสสาวะและนินทาผู้อื่นในหลุมฝังศพ
عَنِ ابْنِ عَبَّاسٍ، قَالَ مَرَّ النَّبِيُّ صلى الله عليه وسلم بِقَبْرَيْنِ فَقَالَ " إِنَّهُمَا لَيُعَذَّبَانِ، وَمَا يُعَذَّبَانِ فِي كَبِيرٍ أَمَّا أَحَدُهُمَا فَكَانَ لاَ يَسْتَتِرُ مِنَ الْبَوْلِ، وَأَمَّا الآخَرُ فَكَانَ يَمْشِي بِالنَّمِيمَةِ ". ثُمَّ أَخَذَ جَرِيدَةً رَطْبَةً، فَشَقَّهَا نِصْفَيْنِ، فَغَرَزَ فِي كُلِّ قَبْرٍ وَاحِدَةً. قَالُوا يَا رَسُولَ اللَّهِ، لِمَ فَعَلْتَ هَذَا قَالَ " لَعَلَّهُ يُخَفَّفُ عَنْهُمَا مَا لَمْ يَيْبَسَا ". قَالَ ابْنُ الْمُثَنَّى وَحَدَّثَنَا وَكِيعٌ قَالَ حَدَّثَنَا الأَعْمَشُ قَالَ سَمِعْتُ مُجَاهِدًا مِثْلَهُ " يَسْتَتِرُ مِنْ بَوْلِهِ "
อิบนุ อับบาส รายงานว่า ท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ได้ผ่านไประหว่างสองหลุมศพ ท่านกล่าวว่า “แท้จริงทั้งสองนี้กำลังถูกทรมาน และสาเหตุของการถูกทรมานนั้นมิใช่เรื่องใหญ่โต (ในความรู้สึกของผู้คน) หนึ่งในนี้เขาไม่รอบคอบในการปัสสาวะและการชำระล้างปัสสาวะ ส่วนอีกหนึ่งรายนั้น เขาเที่ยวนินทาผู้อื่น” หลังจากนั้นท่านก็เอาก้านอินทผลัมสดมาฉีกเป็นสองส่วนแล้วปักลงไปในแต่ละหลุมศพ พวกเขากล่าวว่า โอ้ศาสนทูตของอัลลอฮ์ ท่านทำเช่นนี้เพื่ออะไร ? ท่านตอบว่า “เพื่อว่าทั้งสองจะได้รับการผ่อนเบา (จากการทรมาน) ตราบใดที่ก้านอินผลัมยังไม่แห้ง”
บุคคอรี/หมวดที่4/บทที่57/ฮะดีษเลขที่ 218
หมายเหตุ เป็นการกระทำเฉพาะท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งไม่มีรายงานว่าบรรดาศอฮาบะห์ได้นำวิธีการเช่นนี้ไปปฏิบัติแก่หลุมศพของผู้ใด
عَنِ ابْنِ عَبَّاسٍ، قَالَ مَرَّ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم عَلَى قَبْرَيْنِ فَقَالَ " أَمَا إِنَّهُمَا لَيُعَذَّبَانِ وَمَا يُعَذَّبَانِ فِي كَبِيرٍ أَمَّا أَحَدُهُمَا فَكَانَ يَمْشِي بِالنَّمِيمَةِ وَأَمَّا الآخَرُ فَكَانَ لاَ يَسْتَتِرُ مِنْ بَوْلِهِ " . قَالَ فَدَعَا بِعَسِيبٍ رَطْبٍ فَشَقَّهُ بِاثْنَيْنِ ثُمَّ غَرَسَ عَلَى هَذَا وَاحِدًا وَعَلَى هَذَا وَاحِدًا ثُمَّ قَالَ " لَعَلَّهُ أَنْ يُخَفَّفَ عَنْهُمَا مَا لَمْ يَيْبَسَا "
อิบนุ อับบาส รายงานว่า ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม เดินผ่านหลุมฝังศพสองหลุม แล้วกล่าวว่า ทั้งสองนี้กำลังโดนลงโทษ และเหตุของการถูกลงโทษนั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ (ในสายตาของมนุษย์) โดยหนึ่งในสองนี้เดินนินทาชาวบ้าน, ส่วนอีกหนึ่งนั้นไม่รอบคอบในการปัสสาวะ (และในการชำระล้างปัสสาวะ) เขาเล่าต่อไปว่า ท่านได้เรียกให้นำเอาก้านอินทผลัมสดมาให้ แล้วท่านก็ฉีกเป็นสองซีก หลังจากนั้นท่านก็ปักแต่ละซีกบนหลุมศพทั้งสอง แล้วกล่าวว่า “หวังว่าทั้งสองจะได้รับการผ่อนเบาจากการลงโทษตราบใดที่ก้านอินทผลัมทั้งสองยังสดอยู่”
หมายเหตุ เป็นการกระทำเฉพาะท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งไม่มีรายงานว่าบรรดาศอฮาบะห์ได้นำวิธีการเช่นนี้ไปปฏิบัติแก่หลุมศพของผู้ใด
มุสลิม/หมวดที่2/บทที่34/ฮะดีษเลขที่ 0575
حَدَّثَنِيهِ أَحْمَدُ بْنُ يُوسُفَ الأَزْدِيُّ، حَدَّثَنَا مُعَلَّى بْنُ أَسَدٍ، حَدَّثَنَا عَبْدُ الْوَاحِدِ، عَنْ سُلَيْمَانَ الأَعْمَشِ، بِهَذَا الإِسْنَادِ غَيْرَ أَنَّهُ قَالَ " وَكَانَ الآخَرُ لاَ يَسْتَنْزِهُ عَنِ الْبَوْلِ أَوْ مِنَ الْبَوْلِ "
อะห์หมัด อิบนุ ยูซุบ อัลอัซดีย์ เล่าฮะดีษบทนี้ให้ฉันฟังว่า มุอัลลา อิบนุ อะสัด เล่าให้เราฟังว่า อับดุลวาฮิด เล่าให้เราฟังจาก สุไลมาน อัลอะอ์มัช ด้วยสายรายงานของฮะดีษบทเดียวกันนี้ นอกจากข้อความที่ว่า ท่านนนบีกล่าวว่า “อีกหลุมศพหนึ่งนั้นไม่ทำให้เขาสะอาดเกี่ยวกับปัสสาวะหรือจากปัสสาวะ” (ดูฮะดีษเลขที่ 0575)
มุสลิม/หมวดที่2/บทที่34/ฮะดีษเลขที่ 0576
วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2555
หะดิษเศาะเฮียะห์บุคอรี ว่าด้วยการสูดน้ำเข้าโพรงจมูกขณะอาบน้ำละหมาด
ذَكَرَهُ عُثْمَانُ وَعَبْدُ اللَّهِ بْنُ زَيْدٍ وَابْنُ عَبَّاسٍ ـ رضى الله عنهم ـ عَنِ النَّبِيِّ صلى الله عليه وسلم
อุสมาน, อับดุลลอฮ์ อิบนุ ซัยด์ และอิบนุอับบาส – ขอพระองค์อัลลอฮ์พอพระทัยพวกเขาด้วยเถิด – พวกเขารายงานฮะดีษบทนี้จากท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม
عَنِ الزُّهْرِيِّ، قَالَ أَخْبَرَنِي أَبُو إِدْرِيسَ، أَنَّهُ سَمِعَ أَبَا هُرَيْرَةَ، عَنِ النَّبِيِّ صلى الله عليه وسلم أَنَّهُ قَالَ " مَنْ تَوَضَّأَ فَلْيَسْتَنْثِرْ، وَمَنِ اسْتَجْمَرَ فَلْيُوتِرْ "
อัสซุฮ์รีย์ รายงานว่าอบูอิดรีส บอกกับฉันว่า เขาได้ยินอบูฮุรอยเราะห์ รายงานจากท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ซึ่งท่านกล่าวว่า “ผู้ใดอาบน้ำละหมาดก็จงสูดน้ำเข้าโพรงจมูกแล้วสั่งออก และผู้ใดชำระ (ทำความสะอาดปัสสาวะ,อุจจาระ) ด้วยหิน (หรือสิ่งใกล้เคียง) ก็จงทำเป็นจำนวนคี่”
บุคคอรี/หมวดที่4/บทที่25/ฮะดีษเลขที่ 161
หะดิษเศาะเฮียะห์บุคอรี ว่าด้วยการละหมาดขณะมีฮะดัษจะไม่ถูกตอบรับ
عَنْ هَمَّامِ بْنِ مُنَبِّهٍ، أَنَّهُ سَمِعَ أَبَا هُرَيْرَةَ، يَقُولُ قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم " لاَ تُقْبَلُ صَلاَةُ مَنْ أَحْدَثَ حَتَّى يَتَوَضَّأَ ". قَالَ رَجُلٌ مِنْ حَضْرَمَوْتَ مَا الْحَدَثُ يَا أَبَا هُرَيْرَةَ قَالَ فُسَاءٌ أَوْ ضُرَاطٌ.
ฮัมมาม อิบนุมุนับบิฮ์ รายงานว่า เขาได้ยินอบูฮุรอยเราะห์ กล่าวว่า ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “การละหมาดของผู้ที่มีฮะดัษจะไม่ถูกตอบรับ จนกว่าเขาจะอาบน้ำละหมาดใหม่” ชายคนหนึ่งจากฮัดรอเมาต์ถามว่า โอ้อบูฮุรอยเราะห์ คำว่าฮะดัษหมายถึงอะไรหรือ ? เขาตอบว่า (หนึ่งในนั้น) คือการผายลม
บุคคอรี/หมวดที่4/บทที่2/ฮะดีษเลขที่ 135
อ้างอิงเพิ่มเติม ฮะดีษเลขที่ 6954
หะดิษเศาะเฮียะห์บุคอรี ว่าด้วยผลการตักน้ำให้สุนัขที่หิวกระหายดื่มเข้าสวรรค์
عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ، عَنِ النَّبِيِّ صلى الله عليه وسلم " أَنَّ رَجُلاً رَأَى كَلْبًا يَأْكُلُ الثَّرَى مِنَ الْعَطَشِ، فَأَخَذَ الرَّجُلُ خُفَّهُ فَجَعَلَ يَغْرِفُ لَهُ بِهِ حَتَّى أَرْوَاهُ، فَشَكَرَ اللَّهُ لَهُ فَأَدْخَلَهُ الْجَنَّةَ "
อบูฮุรอยเราะห์ รายงานว่า ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “มีชายผู้หนึ่งเขาเห็นสุนัขเลียรอยชื้นของพื้นดินเนื่องจากความกระหาย ชายผู้นั้นจึงถอดรองเท้าหุ้มส้นของเขาไปตักน้ำมาให้มันดื่มจนหมดกระหาย ดังนั้นอัลลอฮ์จึงชื่นชมเขาและให้เขาเข้าสวรรค์”
บุคคอรี/หมวดที่4/บทที่34/ฮะดีษเลขที่ 173
อ้างอิงเพิ่มเติม ฮะดีษเลขที่ 2363, 2466, 6009
วันพฤหัสบดีที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2555
หะดิษเศาะเฮียะฮืมุสลิม ว่าด้วยเมื่อสุนัขเลียภาชนะ
عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ، قَالَ قَالَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم " إِذَا وَلَغَ الْكَلْبُ فِي إِنَاءِ أَحَدِكُمْ فَلْيُرِقْهُ ثُمَّ لْيَغْسِلْهُ سَبْعَ مِرَارٍ "
มุสลิม/หมวดที่2/บทที่27/ฮะดีษเลขที่ 0546
عَنْ أَبِي هُرَيْرَةَ، أَنَّ رَسُولَ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم قَالَ " إِذَا شَرِبَ الْكَلْبُ فِي إِنَاءِ أَحَدِكُمْ فَلْيَغْسِلْهُ سَبْعَ مَرَّاتٍ "
อบูฮุรอยเราะห์ รายงานว่า ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “เมื่อสุนัขดื่ม (เครื่องดื่ม) ในภาชนะของพวกเจ้า ก็จงล้างภาชนะนั้นเจ็ดครั้ง”
มุสลิม/หมวดที่2/บทที่27/ฮะดีษเลขที่ 0548
عَنْ هَمَّامِ بْنِ مُنَبِّهٍ، قَالَ هَذَا مَا حَدَّثَنَا أَبُو هُرَيْرَةَ، عَنْ مُحَمَّدٍ، رَسُولِ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم . فَذَكَرَ أَحَادِيثَ مِنْهَا وَقَالَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم " طُهُورُ إِنَاءِ أَحَدِكُمْ إِذَا وَلَغَ الْكَلْبُ فِيهِ أَنْ يَغْسِلَهُ سَبْعَ مَرَّاتٍ "
ฮัมมามา อิบนุ มุนับบิฮ์ รายงานว่า นี่คือสิ่งอบูฮุรอยเราะห์ เล่าให้เราฟัง จากมูฮัมหมัด ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม แล้วเขาก็รายงานฮะดีษหลายบทหนึ่งในนั้นก็คือ ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “การทำความสะอาดภาชนะของพวกเจ้าเมื่อถูกสุนัขเลียก็คือการล้างภาชนะนั้นเจ็ดครั้ง”
มุสลิม/หมวดที่2/บทที่27/ฮะดีษเลขที่ 0550
عَنِ ابْنِ الْمُغَفَّلِ، قَالَ أَمَرَ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم بِقَتْلِ الْكِلاَبِ ثُمَّ قَالَ " مَا بَالُهُمْ وَبَالُ الْكِلاَبِ " . ثُمَّ رَخَّصَ فِي كَلْبِ الصَّيْدِ وَكَلْبِ الْغَنَمِ وَقَالَ " إِذَا وَلَغَ الْكَلْبُ فِي الإِنَاءِ فَاغْسِلُوهُ سَبْعَ مَرَّاتٍ وَعَفِّرُوهُ الثَّامِنَةَ فِي التُّرَابِ "
อิบนุ มุฆ๊อฟฟัล รายงานว่า ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ใช้ให้ฆ่าสุนัขจรจัด โดยท่านกล่าวว่า “พวกเขากับสุนัขเกี่ยวข้องอะไรกัน” แต่ท่านก็อนุญาตให้เลี้ยงสุนัขที่ใช้ล่าสัตว์ และสุนัขที่ใช้ขับต้อนฝูงแกะ และท่านกล่าวอีกว่า “เมื่อสุนัขเลียภาชนะ (หรืออาหารในภาชนะ) ของพวกเจ้าก็จงล้างภาชนะนั้นเจ็ดครั้ง และในครั้งที่แปดพวกเจ้าจงถูภาชนะนั้นด้วยกับดิน”
มุสลิม/หมวดที่2/บทที่27/ฮะดีษเลขที่ 0551
وَحَدَّثَنِيهِ يَحْيَى بْنُ حَبِيبٍ الْحَارِثِيُّ، حَدَّثَنَا خَالِدٌ يَعْنِي ابْنَ الْحَارِثِ، ح وَحَدَّثَنِي مُحَمَّدُ بْنُ حَاتِمٍ، حَدَّثَنَا يَحْيَى بْنُ سَعِيدٍ، ح وَحَدَّثَنِي مُحَمَّدُ بْنُ الْوَلِيدِ، حَدَّثَنَا مُحَمَّدُ بْنُ جَعْفَرٍ، كُلُّهُمْ عَنْ شُعْبَةَ، فِي هَذَا الإِسْنَادِ بِمِثْلِهِ غَيْرَ أَنَّ فِي رِوَايَةِ يَحْيَى بْنِ سَعِيدٍ مِنَ الزِّيَادَةِ وَرَخَّصَ فِي كَلْبِ الْغَنَمِ وَالصَّيْدِ وَالزَّرْعِ وَلَيْسَ ذَكَرَ الزَّرْعَ فِي الرِّوَايَةِ غَيْرُ يَحْيَى
ยะห์ยา อิบนุ ฮะบี๊บ อัลฮาริซีย์ เล่าฮะดีษบทนี้ให้ฉันฟังว่า คอลิด หมายถึง อิบนุลฮาริษ เล่าให้เราฟังว่า...
มูฮัมหมัด อิบนุ ฮาติม เล่าให้ฉันฟัง ยะห์ยา อิบนุ สะอี๊ด เล่าให้เราฟังว่า......
มูฮัมหมัด อิบนุ้ล วะลีด เล่าให้ฉันฟังว่า มูฮัมหมัด อิบนุ ยะอ์ฟัร เล่าให้เราฟังว่า
ทั้งหมดนี้นำมาจาก ซัวอ์บะห์ ด้วยสายรายงานของฮะดีษบทนี้ที่มีข้อความเช่นเดียวกัน นอกในรายงานของยะห์ยา อิบนุ สะอี๊ด มีข้อความเพิ่มเติมว่า “และท่านนบีอนุญาตให้เราเลี้ยงสุนัขสำหรับต้อนฝูงแกะ, และสุนัขสำหรับล่าสัตว์, และเพื่อการเกษตร” แต่ในสายรายงานอื่นนอกจากยะห์ยานั้นไม่ได้ระบุคำว่า “เพื่อการเกษตร” (ดูฮะดีษเลขที่ 0551)
มุสลิม/หมวดที่2/บทที่27/ฮะดีษเลขที่ 0552
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)