หะดิษ

หะดิษ
หะดิษต่างๆ

วันพุธที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2555

หะดิษบุคอรี ว่าด้วยพวกอบูญะฮล์กลั่นแกล้งท่านนบี



عَنْ عَبْدِ اللَّهِ، قَالَ بَيْنَا رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم سَاجِدٌ ح قَالَ وَحَدَّثَنِي أَحْمَدُ بْنُ عُثْمَانَ قَالَ حَدَّثَنَا شُرَيْحُ بْنُ مَسْلَمَةَ قَالَ حَدَّثَنَا إِبْرَاهِيمُ بْنُ يُوسُفَ عَنْ أَبِيهِ عَنْ أَبِي إِسْحَاقَ قَالَ حَدَّثَنِي عَمْرُو بْنُ مَيْمُونٍ أَنَّ عَبْدَ اللَّهِ بْنَ مَسْعُودٍ حَدَّثَهُ أَنَّ النَّبِيَّ صلى الله عليه وسلم كَانَ يُصَلِّي عِنْدَ الْبَيْتِ، وَأَبُو جَهْلٍ وَأَصْحَابٌ لَهُ جُلُوسٌ، إِذْ قَالَ بَعْضُهُمْ لِبَعْضٍ أَيُّكُمْ يَجِيءُ بِسَلَى جَزُورِ بَنِي فُلاَنٍ فَيَضَعُهُ عَلَى ظَهْرِ مُحَمَّدٍ إِذَا سَجَدَ فَانْبَعَثَ أَشْقَى الْقَوْمِ فَجَاءَ بِهِ، فَنَظَرَ حَتَّى إِذَا سَجَدَ النَّبِيُّ صلى الله عليه وسلم وَضَعَهُ عَلَى ظَهْرِهِ بَيْنَ كَتِفَيْهِ وَأَنَا أَنْظُرُ، لاَ أُغَيِّرُ شَيْئًا، لَوْ كَانَ لِي مَنْعَةٌ‏.‏ قَالَ فَجَعَلُوا يَضْحَكُونَ وَيُحِيلُ بَعْضُهُمْ عَلَى بَعْضٍ، وَرَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم سَاجِدٌ لاَ يَرْفَعُ رَأْسَهُ، حَتَّى جَاءَتْهُ فَاطِمَةُ، فَطَرَحَتْ عَنْ ظَهْرِهِ، فَرَفَعَ رَأْسَهُ ثُمَّ قَالَ ‏"‏ اللَّهُمَّ عَلَيْكَ بِقُرَيْشٍ ‏"‏‏.‏ ثَلاَثَ مَرَّاتٍ، فَشَقَّ عَلَيْهِمْ إِذْ دَعَا عَلَيْهِمْ ـ قَالَ وَكَانُوا يُرَوْنَ أَنَّ الدَّعْوَةَ فِي ذَلِكَ الْبَلَدِ مُسْتَجَابَةٌ ـ ثُمَّ سَمَّى ‏"‏ اللَّهُمَّ عَلَيْكَ بِأَبِي جَهْلٍ، وَعَلَيْكَ بِعُتْبَةَ بْنِ رَبِيعَةَ، وَشَيْبَةَ بْنِ رَبِيعَةَ، وَالْوَلِيدِ بْنِ عُتْبَةَ، وَأُمَيَّةَ بْنِ خَلَفٍ، وَعُقْبَةَ بْنِ أَبِي مُعَيْطٍ ‏"‏‏.‏ وَعَدَّ السَّابِعَ فَلَمْ يَحْفَظْهُ قَالَ فَوَالَّذِي نَفْسِي بِيَدِهِ، لَقَدْ رَأَيْتُ الَّذِينَ عَدَّ رَسُولُ اللَّهِ صلى الله عليه وسلم صَرْعَى فِي الْقَلِيبِ قَلِيبِ بَدْرٍ‏  




                 อับดุลลอฮ์ อิบนิมัสอู๊ด เล่าให้เขา (ผู้รายงาน) ฟังว่า  ครั้งหนึ่งขณะที่ท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม กำลังละหมาดอยู่ที่กะอ์บะห์ โดยอบูญะฮล์ และสหายของเขาก็อยู่ที่นั้นด้วย คนหนึ่งในหมู่พวกเขา (อบูญะฮล์) กล่าวกับบรรดาสหายของเขาว่า  ใครก็ได้ในหมู่พวกเจ้าไปเอารกอูฐที่บ้านคนนั้นมาหน่อย แล้วเอามันคลุมหลังของมูฮัมหมัดตอนที่ก้มกราบ (สุญูด)  และพวกเขาก็มอบหมายให้ (อุกบะห์ อิบนุ มุอี๊ด) ไปจัดการเรื่องนี้ และเขาก็เอารกอูฐมา (ในเช้าวันรุ่งขึ้น)  และคอยจนกระทั่งท่านนบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม (ละหมาดและ) สุญูด เขาจึงเอารกอูฐไปคลุมหลังระหว่างบ่าทั้งสองของท่านนบี ตอนนั้นฉันก็เห็นที่พวกเขาทำแต่ไม่สามารถจะช่วยเหลือใดๆได้ และถ้าฉันมีกำลังพอฉันก็จะหยุดพฤติกรรมของพวกเขา,
                เขาเล่าต่อไปว่า หลังจากนั้นพวกเขาก็หัวเราะ และต่างก็กล่าวถากถางเป็นที่ขบขันในหมู่พวกเขา ซึ่งขณะนั้นท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ก็ยังอยู่ในท่าสุญูดโดยท่านไม่สามารถที่จะเงยศีรษะของท่านขึ้นได้ จนกระทั่ง ฟาติมะห์ (ลูกสาวของท่าน) มานำเอารกอูฐทั้งผืนออกจากหลังของท่าน, ท่านจึงเงยศีรษะขึ้นมา แล้วกล่าวว่า “โอ้อัลลอฮ์ขอพระองค์ทรงลงโทษพวกกุรอยช์เหล่านี้ด้วยเถิด” ท่านกล่าวเช่นนี้สามครั้ง เมื่อพวกเขาได้ยินคำวิงวอนสาปแช่งเช่นนั้นต่างก็ตื่นตระหนก เพราะพวกเขายังเชื่อว่า การวิงวอนขอ ณ.ที่นั้น (บัยตุ้ลลอฮ์) จะถูกตอบรับ
                ท่านนบี กล่าวต่อไปโดยเรียกชื่อของพวกเขาทีละคนว่า “โอ้อัลลลอฮ์โปรดลงโทษ อบูญะฮล์, ขอพระองค์ลงโทษ อุตบะห์ บินรอบีอะห์, ชัยบะห์ บินรอบีอะห์, อัลวะลีด บินอุตบะห์, อุมัยยะห์ บินค่อลัฟ, อุกบะห์ อิบนุอบีมุอี๊ด”  และท่านกล่าวถึงอีกคนหนึ่งเป็นลำดับที่เจ็ด แต่เราจำชื่อเขาไม่ได้
                อับดุลลอฮ์ อิบนิมัสอู๊ด กล่าวว่า ขอสาบานต่อ (อัลลอฮ์) ผู้ซึ่งที่ตัวของฉันอยู่ในอุ้งพระหัตของพระองค์ว่า ฉันเห็นร่างของบรรดาผู้ที่ท่านรอซูลุ้ลลอฮ์ ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม เอ่ยชื่อพวกเขานี้ ถูกโยนลงในหลุม, สุสานแห่งสมรภูมิบะดัร


บุคคอรี/หมวดที่4/บทที่70/ฮะดีษเลขที่ 240

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น